วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Prototype..

วันนี้ เราไม่ได้มาเขียนเรื่องตัวเอง

วันนี้้เรามาบ่น 555

จะพยายามเขียนให้ไม่น่าเบื่อ ถึงบล็อคนี้มันจะไม่ค่อยมีคนอ่านก็เหอะ 555

หลายๆคนคงเคยดูดวง

เราก็ชอบดู

แต่เราจะชอบดูอยู่ไม่กี่อย่างหรอก

เราชอบดูดวงพวกเลขฐาน แล้ว ก็ลายมือ

ในความรู้สึก คิดว่าการดูดวงสองอย่างนี้น่าจะแม่นที่สุด เพราะว่าอย่าง เลขฐานเนี่ย ก็ต้องใช้ทั้ง วัน เดือน ปี เวลาตกฟาก แล้วก็สถานที่เกิด ส่วนลายมือ ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นอัตลักษณ์พิสูจน์บุคคล แต่ละคนไม่เหมือนกัน

เราไม่คิดว่า เราสามารถแบ่งคนบนโลก 6000 ล้านคน เป็นกลุ่มคนที่มีนิสัยเหมือนกัน 4 กลุ่มตามกรุ๊ปเลือด 7 กลุ่มตามวันเกิด) หรือ 12 กลุ่มตามราศี ได้ง่ายๆ

แล้วทำไมต้องเกริ่นซะยาวล่ะ? 555

วันหนึ่ง (ที่ค่อนข้างใกล้สอบ) เราเห็นภาพนี้....


https://www.facebook.com/photo.php?fbid=422741844437950&set=a.405600539485414.95420.405565326155602&type=1


อันนี้เป็นตัวอย่างนึงของการจัดคนเป็นกลุ่มที่ ห ย า บ เกินไป
เราจะยังไม่พูดถึงตัวเรานะ เราขอเล่าประสบการณ์ใกล้ตัวก่อน
เราอยู่ รร. แห่งหนึ่ง ที่ต้องเจอกับคนของมหาลัยในรูปที่สามประจำ
มีหลายๆเหตุการณ์ ที่จำได้แม่น

วันหนึ่ง ณ ร้านถ่ายเอกสารใกล้โรงอาหาร ฉันเห็นพี่มหาลัย นั่งลอกการบ้านสถิติที่ง่ายกว่าที่ฉันเรียนอยู่
ทุกๆเปิดเทอม หน้าโรงอาหาร ฉันเห็นการรับน้อง ที่....ไม่สมกับเป็นปัญญาชน
ทุกเช้า ที่ฉันไปกินข้าวที่โรงอาหาร ฉันเห็นแฟชั้นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นยกทรงลายเสือดาวทะลุเสื้อ เสื้อทะลักล้น กระโปรงสั้นๆราวกับที่บ้านขาดแคลนผ้าแถบ




ณ ตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่าพี่ๆเค้าเรียนอะไรกัน แต่ว่าถ้าพี่ๆเค้าเรียนเพื่อไปเป็น แม่พิมพ์ของชาติฉันมีคำถามต่อๆพี่เหล่านั้นนิดหน่อย

ขอถามพี่กลุ่มแรกว่า ถ้าพี่ไปเป็นครู พี่คิดว่า พี่มีความชอบธรรมที่จะนั่งจับผิดสำนวนการเขียนของเด็กว่าลอกกันรึเปล่ามั้ยคะ?
ขอถามพี่กลุ่มที่ชอบรับน้องแบบพิศดารว่า พวกพี่คิดว่าการพูดจาหยาบโลน เต้นท่าทุเรศทุรังเนี่ย จะได้ใช้ในชีวิตจริงมั้ยคะ แล้วพวกพี่รู้ได้อย่างไรคะ ว่าชีวิตการทำงานจะหนักกว่านี้ พี่เคยเรียนจบแล้วเหรอคะ
ขอถามพี่กลุ่มสุดท้ายว่า ถ้าพี่ไปเป็นครู พี่คิดว่า พี่มีความชอบธรรมพอที่จะแกว่งกรรไกรไปตัดผมเด็กคนนู้นที คนนี้ทีมั้ยคะ

เราเป็นคนชอบคิดอะไร เยอะๆแยะๆ เห็นอะไรก็หลายเป็นเรื่องโยงกันเต็มหัวแล้ว


จนถึงวันของเรา เราได้เป็นคนกลุ่มแรก
จริงๆจะบอกว่าเป็นคนกลุ่มแรก ก็ไม่เชิงหรอกนะ ตอนมอต้น เกรดเราเรี่ยดินมากเลย
เหมือนไม่คิดอะไร ทำอะไรไปเรื่อยๆ แต่วางแผนล่วงหน้าทีละหลายๆปี

ผิดหวังที ลูกฮึดก็มาที แล้วก็แผ่วไป

พอมามอปลาย เราตั้งใจเรียนขึ้นมากแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้เลย
ตอนนั้นก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรหรอก ก็แค่ตอนนั้นเรียนแคลรู้เรื่อง ตอน ม.สี่
มันมีความรู้สึกหลายๆอย่างปนกันนะ แปลกใจ ดีใจ
แล้วเราก็ขยันขึ้น
มอ.ห้า เรียนเคมี คำนวน
มีความรู้สึกเหมือนคนตกหลุมรักน่ะ ชอบเคมีมากๆ

เชื่อมั้ยจนถึงตอนนี้ เรียนอะไรมาหลายอย่าง เจอโจทย์คำนวนทีไร ก็ยังเอาพื้นฐานที่เรียนมาจากเคมีคำนวน มอ.ห้า มาใช้อยู่เลย

จะคงต้องบอกว่า เราได้ดีเพราะ ค รู จริงๆ :)

ย้อนกลับไปที่ภาพนั้นนะ
เราเป็นคนกลุ่มแรก ก็จริง แต่เราไม่ใช่ที่หนึ่ง ของกลุ่มแรก ของชั้นเรียน
เราได้ที่สามของชั้น แล้วที่หนึ่งกับที่สอง เค้าก็ไม่ได้เรียนหมอด้วย

ถ้าได้ลองเข้าไปอ่านคอมเม้นในภาพนั้น บางความเห็นก็ว่าว่า อาชีพนี้ก็เก่งๆ แล้วก็เห็นแก่ตัว แล้วก็อยากรวยบลาๆๆ มาพร้อมไลค์นับล้าน

ทำไมรู้สึกเหมือนกรรมสนองไม่รู้.....

เราเป็นคนนึง ที่ไม่ได้อยากเป็นหมอเพราะรักที่จะเป็น เราเริ่มจากการตัด choice ทิ้ง

เราเคยอยากเป็นทูต แต่เราตระหนักดีว่าเรา ป า ก ห ม า
เราเคยอยากเป็นวิศวะ แต่เข้าแลปฟิสิกส์ทีไร เราโดนอาจารย์ว่าทุกที ว่าเราไร้ทักษะ แต่เราก็ไร้ทักษะจริงๆนั่นละ จะต่อไฟ จะเซนส์ทางวิศวะหรืออะไร เราไม่มีทั้งนั้น เราคงได้แต่เอาสูตรทีเรียนมา มาผูกกันอย่างเดียว ให้เอามันไปทำอะไรต่อ เราคงทำไม่เป็น 555
เคยอยากเรียนทันตะด้วย แต่ก็ตระหนักดีว่า เราคงไม่ชอบนั่งฟังเสียงเครื่องกรอฟันหรอก

เราเหลือหลายๆตัวเลือก มีหมอ,บัญชี,วิทยา
อ่า...ก็อันนี้แหละ

ทุกวันนี้ เราก็ต้องมานั่งหงุดหงิด เพราะภาพที่คนมอง
เอาง่ายๆเลยนะ จะเล่า สเตปให้ฟัง ถ้าเราไปเจอคนรู้จัก

T : *ไหว้*
Mrs.A คุยกับแม่ : ลูกสาวเหรอ ตัวใหญ่เนอะ
M : *ยิ้ม*
T : /in mind ขาหนูไม่ได้หนีบก้านคอป้าอยู่นะค้าาาาา
Mrs.A : ลูกเรียนอะไรล่ะ
M (ผู้รู้ step ดี 5555) : _บอกชื่อมอก่อน_
Mrs.A :อ่อออ ไกลเนอะ (ถ้าโชคดีจะไม่ถูกสัมภาษณ์ต่อ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อย 5555) เรียนคณะอะไรล่ะ
T : แพทย์คะ
Mrs.A : เออ เก่งเนอะ ดีๆ แม่ก็สบายแล้วสิ
...หลายๆครั้ง จะถามสำทับด้วย ว่า แล้วเรียนเฉพาะทางอะไรล่ะ
เราก็จะตอบว่า ยังคะ
 เคยเจอ suggestion ต่อด้วย ว่า เรียนอันนั้นสิ จะได้รวยๆ = =

มนุษย์ย่อมเกิด Conditional learning หึหึ
Mrs.A - เรียนอะไรล่ะ
T - แพทย์คะ
Mrs.A - เก่งเนอะ,แม่จะได้สบาย,จะต่ออะไร
T ตอบให้เหมือนกันให้หมดว่า - ไม่เก่งคะ จะจบมั้ยยังไม่รู้เลยคะ *ยิ้ม*

ฟินที่สุดในสามโลก 55555

บางคนอาจจะคิดว่า เราชอบบทสนทนาเหล่านี้ - ไม่ชอบคะ
หรือสงสัยว่า ทำไมต้องคิดเยอะขนาดนี้ - ไม่ชอบอะ ไม่ชอบให้ใครมาเหมา ว่าเรามาเพราะเราอยากสบาย อยากรวย หรืออะไร เราคิดว่าเราทำอย่างอื่น เรารวยได้มากกว่านี้ ที่เราเลือกตรงนี้เพราะเราชอบวิทยาศาสตร์ เรายังไม่อยากทิ้งมันไปไหน แต่ที่เราไม่เรียนวิทยาศาสตร์ เพราะเราอยากให้ชีวิตเรามีคุณค่า ไม่ได้หมายความว่าเรียนคณะอื่นไม่มีนะ แต่คุณค่าในทัศนคติของเรา คือได้ช่วยคนหมู่มาก (รู้สึกสวยแหะที่พิมพ์ไป แต่คิดอย่างนี้จริงๆ 555 )

เขียนมาถึงตรงนี้จะบอกว่า ที่เขียนมาทั้งหมด  ได้แรงบันดาลใจจากรูปๆนั้น เราอยากให้ทุกคนรู้ว่า มนุษย์ไม่ใช่ prototype ไม่ใช่ว่าคนเรียนดีต้องเป็นหมอ เขาก็เรียนอะไรก็ได้นั่นล่ะ แล้วไม่ใช่ว่า คนเป็นครูต้องเป็นอย่างที่เราเห็น พี่พวกนั้น ที่เราเห็นเขาอาจจะไม่ได้เรียนครู เรียนครูแต่ไม่ได้เป็นครู เป็นครูแต่แยกแยะได้ เป็นครูที่แยกแยะได้แต่เป็นคนส่วนน้อย(หวังว่านะ :D) คนเรียนหมอก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเรียนหมอ ต้องบริการ หรือเรียนหมอต้องอยากรวย หรืออะไรก็ช่าง บุคคลไม่ใช่ภาพวาดของคนอื่น เขาต่างเป็นตัวของเขา ภาพวาดของเขาอาจจะไม่สวยในสายตาของเรา แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปตัดสินใครหรอกจริงมั้ย :)

P.S. พักหลังติดใจ quote เท่ๆ ของพี่ รร คนนึง เขาเป็นประธานนักเรียน ตอนนี้พี่เค้าเป็นครูล่ะ ปลื้มมม ><
P.S.2 ที่เขียนมาเหมือนจะไม่จบ แต่จบแล้วจริงๆนะ ๕๕๕
P.S.3 คำพูดบางคำ ในนี้อาจฟังแล้วระคายหู ขอโทษคะ หนูไม่สามารถเคารพใครเพราะเค้าเกิดก่อนได้จริงๆ

สวัสดีคะ :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น