วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เรื่องเล่าเท่าที่จำได้ : บทที่ 4 - คุณหมอครับ


ตอนนี้ จขบ ขึ้นชั้นคลินิคเป็นปีที่ 2 แล้วค่ะปีที่แล้วเป็นปีที่เหนื่อย แต่ก็ได้เจอเรื่องดีๆเยอะอยากจะเขียนเอาไว้ กลัวว่าพอแก่ไป กลัวจะลืมเรื่องราว ของ "คุณครู" ทุกคนไป
จะไม่มีการเขียน identity คนไข้ค่ะ แต่ว่า จะว่าไป จขบ ก็ไม่แม่นเรื่องข้อบังคับ จรรยาบรรณอะไรเท่าไหร่
ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ ขอคำแนะนำจากพี่ๆ ด้วยนะคะขอบคุณค่ะ :)


------------



ไม่มีเรื่องเล่าจากวอร์ดศัลย์กับสูติเลย

นึกยังไงก็นึกไม่ออก

คงเพราะดูคนไข้ไม่ละเอียดมั้ง 555+



เคสที่ 4  เป็นเรื่องเล่าจาก ward อายุรกรรม (medicine)
เคสนี้ เป็นเคสที่เราสะเทือนใจที่สุด

เคสผู้ป่วยชายไทยคู่ (คู่ = มีสามี/ภรรยาแล้ว ทางพฤตินัย) อายุประมาณ 35 ปี

อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาจำหวัดร้อยเอ็ด

เคสนี้มาด้วยกลุ่มอาการไขกระดูกล้มเหลว (bone marrow failure)


ไขกระดูก ทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือด เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด
พอไขกระดูกล้มเหลว ก็จะสร้างกลุ่มเม็ดเลือดที่พูดไปข้างต้นไม่ได้

ผลก็คือ
สร้างเม็ดเลือดแดงไม่ได้ คนไข้ก็จะซีด ,อ่อนเพลีย
สร้างเม็ดเลือดขาวไม่ได้ ภูมิคุ้มกันของคนไข้ก็จะต่ำลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
สร้างเกร็ดเลือดไม่ได้ คนไข้ก็จะมีภาวะเลือดออกง่าย

คนไข้คนนี้มาด้วยไข้ โดยไม่มีสาเหตุของไข้ที่ชัดเจน ร่วมกับมีจ้ำเลือดตามตัว ,เลือดออกตามไรฟัน และอ่อนเพลีย

จึงคิดถึงสาเหตุจากไขกระดูก
อาจจะเกิดจากการติดเชื้อที่ไขกระดูก ไขกระดูกฝ่อ หรือมะเร็ง

ได้ทำการเจาะไขกระดูก (bone biopsy) ไปดูพบว่า
ผู้ป่วยท่านนี้เป็น ลิ ว คี เ มี ย
(ไม่แน่ใจ subtype ค่ะ คิดว่าเป็น Chronic myeloblastic leukemia with acute on top)

เราจำผู้ป่วยคนนี้ได้แม่น
เค้าอยู่ในห้องแยกเชื้อ เนื่องจากตัวโรคของเค้าจะติดโรคได้ง่าย

พี่เป็นผู้ชาย สูงประมาณ 170 รูปร่างสันทัด ผิวเกรียมแดดจากการทำงาน
เค้าอยู่ในห้องกับแฟนของเค้่า

เราเข้าไปแนะนำตัว บอกกับเค้าว่าเราเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ได้ดูแลเค้า วันนี้จะขออนุญาติตรวจร่างกายเค้า และอาจจะมีพี่ๆ มาขอตรวจเค้าซ้ำเราอีก

ได้ครับ คุณหมอ...
ปกติ คนไข้จะเรียกเราน้องบ้าง น้องหมอบ้าง หมอเล็กบ้าง มีคนไข้คนนี้คนแรกล่ะมั้งที่เรียกเราว่าคุณหมอ

ตรวจร่างการก็พบว่าคนไข้ซีด และมีเลือดออกตามตัว
นอกนั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ

หน้าที่อีกอย่างนึงของเราคือ ไปดูคนไข้ตอนเช้า
คนไข้คนนี้ มีไข้สูงประมาณ 38-39 ตลอด ลงตามการได้รับยาลดไข้เป็นช่วงๆ
และบ่น คลื่นไส้อาเจียนทุกวัน

คลื่นไส้อาเจียน คิดถึงสาเหตุแบบกว้างๆ ได้ 2 สาเหตุ 

- สาเหตุในหัว (intracranial)
- สาเหตุนอกหัว (extracranial)

คนนี้นึกถึงสาเหตุหลักๆ 2 สาเหตุ

- โลหิตจาง
- สาเหตุในหัว

คนไข้มีโลหิตจางจริง และตรวจร่างกายทางระบบประสาทไม่พบความผิดปกติ

จริงให้ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียน



วันที่ 3 ของการเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยคนนี้

คืนนั้นเราอยู่เวร

เป็นวันที่ไม่ได้นั่งเลย ตั้งแต่หกโมงเย็น

วิ่งรับเคส ทำงานอยู่

พี่พยาบาล เดินมาหาเราข้างหลัง
"น้องหมอคะ เคสในห้องแยก ใช่เคสของน้องหมอมั้ยคะ?"

"ใช่ค่ะ"


"คนไข้บ่นปวดหัวอีกแล้วค่ะ"


เราเดินไปดูคุณน้า คุณน้านอนตะแคง ตัวงออยู่บนเตียง

"ปวดหัวมากครับคุณหมอ"

"ปวดยังไงคะ" 


"ปวดเหมือนจะระเบิดเลยครับ"


"เต็มสิบคือปวดที่สุด ให้กี่คะแนนคะ"


"สิบเลยครับ....อ้วกกกกก"


คนไข้อาเจียน

ภรรยาของเขาเอาถุงมารองแทบไม่ทัน

เราไป notify พี่ต่อ
พี่ให้ยารักษาตามอาการ

เราลงเวรตอน เกือบห้าทุ่มละมั้ง


เช้าวันรุ่งขึ้น
เรามาดูคนไข้เหมือนทุกวัน

คุณน้าไม่อยู่แล้ว...
เราเลยไปถามกับพี่พยาบาล

เคสในห้องแยกเหรอคะน้องหมอ NR ไปแล้วค่ะ

NR

no resuscitation

เกิดอะไรขึ้น?


หลังจากน้องหมอลงเวรนั่นแหละ คนไข้ ตาลอยค้าง เรียกไม่รู้สึกตัว 

พี่ได้มาใส่ท่อย้ายเข้า ICU
รู้สึกเค้าทำ CT แล้วเป็น stroke(เลือดออกในสมอง) นะน้องหมอ

เราตามไปดูคนไข้ที่ ICU ใกล้ๆ


คุณน้าที่คุยกับฉันเมื่อวันก่อน นอนอยู่ในห้องแยกใน ICU พร้อมกับท่อ และเครื่องช่วยหายใจ
ฉันเปิดอ่านชาร์ทคนไข้
พี่บันทึกเหตุการณ์ไว้ ไม่ต่างจากที่พี่พยาบาลเล่ามากนัก

ฉันตามไปดูที่ ผล CT scan
มีรอยเลือดออกขนาดใหญ่มาก ที่สมองส่วน cerebellum

ถึงตรงนี้ ฉันรู้สึกแย่.....
อาการแรกๆของเลือดออกในสมอง คือ ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน
 คนไข้ปวดหัวตั้งแต่วันแรก แต่ตรวจร่างกายแล้วปกติ

 จะว่าไปแล้ว อาเจียนที่ฉันเห็น มันไม่ใช่อาเจียนธรรมดา
 ฉันเห็นอาเจียนพุ่ง

 P R O J E C T I L E   V O M I T T I N G
เป็น sign สำคัญที่เกิดจากความดันในหัวเพิ่ม

 ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันยังคุยกับคุณน้าอยู่เลย
 เช้าวันนั้นเป็นวันที่เคว้งคว้าง พี่ๆพากันพูดถึงเคสนี้ 

 วันนั้นฉันทำงานแบบไม่มีสติ
 หลังจากราวน์เสร็จ ฉันเข้ามานั่งพักในห้องพักนักศึกษา

 ฉันได้ยินเสียง ภรรยาของเค้าอยู่นอกห้อง
ฉันเปิดประตู เห็นผู้หญิงร่างเล็ก ผิวคล้ำคนเดิมที่นั่งอยู่ในห้องแยก กำลังถามทางจากพี่พยาบาลเพื่อจะไปเคลียร์หนี้สิน

 ฉันเรียกเธอ
 "คุณน้าคะ"

 เธอหันมา


  เธอเห็นหน้าฉัน


เธอเข้ามากอดฉันแล้วร้องไห้



 เธอร้องไห้เสียงดังลั่นวอร์ด

 วินาทีนั้นเป็นวินาทีที่ฉันลำบากใจที่สุด
 ฉันคิดว่ามันมีแต่ในละคร และตอนนี้ฉันต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้

 ฉันบอกเค้าว่าฉันเสียใจ
ฉันขอตัวมาทำแผลคนไข้คนอื่นแล้วเดินจากมา

 ฉันเดินมาที่เตียงที่ต้องทำแผล กำลังจะเสิร์ฟของช่วยเพื่อน
 "ตุ้ย แกไปจัดการก่อนไป....."


 ฉันจึงไม่ลังเลที่จะเดินมาเป็นเพื่อนคุณน้า
 แต่เอาเข้าจริงๆ มันยาก...

ฉันกำลังเดินข้างๆ ผู้หญิงคนนึง 
เธอกำลังเสียสามีไป
 ฉันควรจะพูดอะไร

 "เค้าไปสบายแล้วนะคะ...." เหรอ

ถ้าไปสบาย ถามจริงๆว่าฉันอยากไปมั้ย?
ฉันไม่ได้อยากไป

 "คุณน้าคะ...."
"....."
 "คุณน้ารู้มั้ยคะ ว่าโรคนี้ แนวทางการรักษาเป็นยังไง"
 คุณน้าส่ายหน้า
 "โรคนี้ ใช้เวลาในการรักษาค่ะ ใช้ยาเคมี และ การปลูกถ่ายไขกระดูก"
 "......."
 "ยามีผลข้างเคียงค่ะ และตัวโรคก็ไม่ได้หายในทันทีที่รักษา"
 "....."
 "หนูเสียใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่บางที สิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะดี สำหรับคุณน้าเค้าแล้วนะคะ"



 "หนูเสียใจด้วยนะคะ"


 - เหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดเมือวานเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น